Highlight: Shizuoka Prefecture จังหวัด
- Izu peninsular – ภูเขาไฟ Omuro (Mount Omuro), ชายฝั่ง Jogasaki (Jogasaki Coast)
- Fuji City – The best Starbucks to see Mount Fuji ร้านสตาร์บัคส์ที่เห็นภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุด
- Nippondaira Hotel – โรงแรมสุดสวยกับวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดในญี่ปุ่น
- Nihondaira ropeway – นั่งกระเช้าไปศาลเจ้า Kunōzan Tōshōgu Shrine
- Makinohara – เปลี่ยนชุดเป็นชาวไร่แล้วมาเก็บชาเขียวกัน Grinpia
- Fujinomiya – น้ำตกสวยริมภูเขาไฟฟูจิ Shiraito Falls, Otodomeno Falls
วันนี้ทาง oak.in.th จะได้มาแนะนำทริปจังหวัด Shizuoka และจะได้มาแนะนำโรงแรมสุดสวย ที่ได้มีโอกาสไปพักมาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 1 คืน (12 – 13 มิถุนายน 2560)
เนื่องมาจากเพื่อนของผมได้มาเที่ยวญี่ปุ่น เนื่องจากเที่ยวเมืองหลัก ๆ กันแทบจะครบหมดแล้ว เราเลยมองหาตัวเลือกอื่น ๆ ที่คนไทยยังไม่ค่อยไปกัน อย่างเช่นจังหวัดชิสุโอกะ (Shizuoka) ที่ไม่ได้ไกลจากกรุงโตเกียวมากนักแต่มีที่เที่ยวมากมายเลย ซึ่งจะได้มารีวิวกันเลย ณ บัดนี้
เราเริ่มต้นการเดินทางจากสถานี Ueno โดยรถไฟเพื่อมาเปลี่ยนรถไฟชินคันเซ็นที่สถานีโตเกียว จากนั้นนั่งไปที่สถานี Atami เพื่อเปลี่ยนเป็นรถไฟท้องถิ่นสาย Izu Line เพื่อไปเมือง Ito จากนั้นเราเช่ารถของบริษัท Toyota rent-a-car เพื่อใช้ในการท่องเที่ยวในทริปนี้ หรือที Nissan rent a car ก็ได้เช่นกันขึ้นอยู่กับความชอบครับ
เมื่อถึงสถานี Ito เราไปรับรถที่เราเช่ากันไว้ ที่ Toyota Rent a car ซึ่งเราเช่าจากเมือง Ito และไปคืนยังสถานีรถไฟ Shin Fuji ครับ แถมเช่าบัตร ETC หรือบัตรทางด่วนได้อีก นับว่าสะดวกมากเลยครับ
เราตั้ง GPS เพื่อไปยังจุดแรกคือ Mount Omuro
Izu peninsular – ภูเขาไฟ Omuro (Mount Omuro -大室山)
Source/Cretit:Home of Mt.Fuji-Shizuoka
Mount Omuro เป็นภูเขาไฟขนาดเล็ก มีความสูง 580 เมตร มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 300 เมตร มีรูปทรงสวยงามที่เราสามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปเดินบนปากปล่องได้ แต่ว่าวันที่พวกเราไปถึงเป็นวันที่มีการ renovate ทั้งสัปดาห์ (เศร้าเลย) เราเลยขอหยิบภาพของคนอื่นมาให้ดูกันก่อน ครั้งหน้าเราไม่พลาดแน่นอน ดังนั้นก่อนมาควรตรวจสอบการให้บริการก่อนที่ Website: http://omuroyama.com/ ครับ
มาถึงแล้วกระเช้าหยุดสนิทเลย T_T ตอนแรกก็นึกว่าเขาคงรอคนขึ้นมั้งเขาถึงจะเปิด พอไปเปิดเว็บดูเท่านั้นแหละ มันปิดจ้า
ส่วนค่าขึ้นกระเช้า 500 เยนเท่านั้น ใช้เวลาเพียง 6 นาทีเท่านั้น ที่นี่ห้ามใช้โดรนนะ เลยขอก็อปภาพสวย ๆ มาละกัน
Credit: https://www.japanvisitor.com/japan-city-guides/mount-omuro
ที่ภูเขามันดูมีหญ้าสีเขียวสวยงาม เพราะแต่ละปีเขาจะเผาหญ้าเพื่อเป็นการกำจัดศัตรูพืชต่าง ๆ ไม่ให้ไปรบกวนไร่นาของชาวบ้าน โดยจะจัดขึ้นทุกปีช่วงสิ้นสุดฤดูหนาวครับ
รูปด้านบนจากคุณ wonderingpango สวยมาก ๆ และถ้าอากาศดี ฟ้าใส เรามีโอกาสเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากจุดนี้ด้วยแหละ
การเดินทาง : ถ้าไม่มีรถส่วนตัวหรือเช่ารถมา การมาที่นี่คือนั่งรถไฟสาย Ito ลงมาที่สถานี Izu-Kogen และขึ้นบัสที่จะไปยัง Shaboten (Cactus) Park (シャボテン公園行) ใช้เวลาแค่ 22 นาที ครับ ซึ่งรถจะมีทุก 30 นาที ในราคา 360 เยน / หรือจะขึ้นรถบัสจากสถานี Ito เลยก็ได้ สาย Shaboten (Cactus) Park (シャボテン公園行) เช่นกัน แต่ใช้เวลา 40 นาที และค่าโดยสาร 710 เยนครับ
Izu peninsular – ชายฝั่ง Jagasaki (Jogasaki Coast – 城ヶ崎海岸)
หลังจากที่เราไป Mount Omuro เสร็จ ขับรถมาอีกไม่ไกลนั้นก็มีสถานที่เที่ยวที่สวยงามอย่างชายฝั่ง Jogasaki Coast ที่สวยงาม
มีสะพานแขวนข้ามหุบเหวด้านล่างสวยงาม
เราสามารถมองเห็นเกาะ Oshima ได้จากจุดนี้
จะเห็นว่ามีประภาคารด้วย สามารถเดินขึ้นไปได้ครับ
วิวจุดนี้สวยมาก ต้องถ่ายจากลานจอดรถจะเห็นนะครับ สะพานแขวนข้ามระหว่างหน้าผา
วิธีการเดินทางมาที่ Jogasaki Coast: จากสถานี Izu-Kogen มีรถบัสที่ไปยังเส้นทาง Kaiyo Koen (海洋公園) และลงที่ป้าย Izu Kaiyo Koen (伊豆海洋公園) ใช้เวลา 10 นาที ราคา 250 เยน แต่มีรถรอบละชั่วโมงเท่านั้น แต่ก็สามารถใช้การเดินจากสถานีรถไฟ Jogasaki Kaigan โดยใช้เวลา 20-30 นาทีได้เช่นกัน
จากนั้นเราแวะรับประทานอาหารกลางวันที่ร้าน Boranaya ぼら納屋 (http://www.boranaya.com/) เป็นร้านอาหารร้านเดียวในระแวกนี้ มีเซ็ตอาหารกลางวันมากมาย แต่เราเลือกเซ็ตตามชื้อร้านคือ Boranaya set เลย ในราคา 3,200 เยน โดยปลาที่แนะนำที่นี่คือปลา Kinmetai 金目鯛 ซึ่งเป็นปลาที่มีหนังสีแดง มีรสชาติอร่อยมาก ๆ
เมื่อเราทานอาหารกลางวันเสร็จก็ขับรถไปกันต่อที่เมือว Shizuoka เพื่อไปยังที่พักของเราที่ โรงแรม Nippondaira Hotel
Fuji City – The best Starbucks to see Mount Fuji ร้านสตาร์บัคส์ที่เห็นภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุด
ที่ระหว่างทางมาเราได้ใช้ทางด่วนที่จะมายังเมือง Shizuoka และได้แวะที่จุดพักรถของเมืองฟูจิ (Fuji City, Shizuoka) แล้วที่นี่มีร้าน Starbucks ด้วย แต่เราจะไม่เอามาเขียนเลยถ้าที่นี่มันธรรมดา เพราะมันคือหนึ่งในร้านสตาร์บัคส์ที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นเลย เพราะจะเห็นวิวเมืองฟูจิ และ ภูเขาไฟฟูจิตรงหน้านั่นเอง ร้านนี้คือ スターバックスコーヒー富士川サービスエリア(下り線)店 เป็นร้านที่ตั้งอยู่บนเส้นทางด่วน Tomei Expressway รายละเอียดร้าน: http://www.starbucks.co.jp/store/search/detail.php?id=733
Credit: https://plat.navitime.co.jp/article/TBZ2016122905005/
เช่นเดิมครับ วันที่เราไปอากาศไม่สดใส เราเลยขออนุญาตนำภาพจากอินเตอร์เน็ตมาเผยแพร่เลยแล้วกัน ดังนั้นอย่าลืมแวะนะครับ
Credit: http://tori-goya.at.webry.info/200708/article_3.html
ส่วนวันที่เราไป ภูเขาไฟฟูจิซ่อนตัวอยู่ในเมฆกลุ่มนั้น แม้เราจะพยายามดื่มกาแฟถ่วงเวลาเพื่อให้เมฆกลุ่มนั้นออกไปแล้วแต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ เราเลยต้องไปต่อที่โรงแรมของเราเพื่อลุ้นว่าจะได้เจอภูเขาไฟฟูจิหรือไม่
Hotel Nippondaira – โรงแรมที่เห็นภูเขาไฟฟูจิได้สวยที่สุด
ระหว่างทางที่มาพวกเราลุ้นกันตลอดว่าเราจะสามารถเห็นภูเขาไฟฟูจิได้หรือไม่ เมื่อเรามาถึงโรงแรมและห้องของเรา ภาพที่ปรากฎต่อหน้าพวกเรานั้นก็คือ …..
นี่คือวิวภูเขาไฟฟูจิที่สวยที่สุดในญี่ปุ่นก็ว่าได้ ด้วยโรงแรมนี้ตั้งอยู่บนภูเขา ทำให้เราสามารถมองลงเป็นเห็นเมือง Shizuoka ได้อย่างเต็มตา พร้อมกับภูเขาไฟฟูจิที่โผล่มาทักทาย
แม้ว่าจะมีเมฆมากกว่าตาม แต่เราได้เห็นยอดภูเขาไฟฟูจิในฤดูร้อนที่แทบจะไม่เหลือหิมะให้เห็นอีกเลย สวยมากครับ แม้จะเห็นไม่กี่ชั่วโมงก็ตามแต่มันสวยติดตามาก ๆ เลย
โรงแรมนี่เราพบว่าจองได้จาก agoda แต่บน booking.com ไม่ขึ้นซะงั้น ตอนแรกเกือบถอดใจซะแล้ว
และแนะนำเลยว่าควรจองห้องที่หันไปเห็นวิวภูเขาไฟฟูจิ ในตอนกลางวันสวยมาก ส่วนตอนกลางคืนจะเห็นวิวแสงไฟของเขตท่าเรือ Shimizu สวยงามเช่นเดียวกัน ส่วนที่พักอีกด้านจะเป็นวิวลานจอดรถนั่นเอง
ตอนช่วงเย็นพวกเราได้มีโอกาสทานอาหารแบบฟูลคอร์สของที่ร้านอาหารของโรงแรม Fukian Japanese Cuisine and Sushi ราคามีตั้งแต่ 7,000 – 10,000 เยน
หลังจากทานอาหารเสร็จก็แวะไปที่ Upper Lounge
ในส่วนนี้ของโรงแรม เป็นอะไรที่สุดยอดมาก วิวเมือง Shizuoka ที่มีแสงไฟระยิบระยับ ภายในตกแต่งอย่างมีระดับ มีค็อกเทล์เย็นชื่นใจให้ดื่ม
นี่คือค็อกเทลที่เป็นซิกเนอเจอร์ของที่นี่ ชื่อว่า Nippondaira นั่นเอง
การเดินทางมาที่นี่: ถ้าไม่ได้เช่ารถหรือขับรถมา ทางโรงแรมมี Shuttle Bus ฟรีจาก JR Shizuoka station ครับ รายละเอียด: http://www.ndhl.jp/english/access/img/shuttlebus.pdf
หรือขึ้นมาจากทางศาลเจ้า : https://www.toshogu.or.jp/english/access/
Nihondaira Ropeway – นั่งกระเช้าไปศาลเจ้า Kunōzan Tōshōgu Shrine
จริง ๆ แล้วบนเขา Nihondaira มีไร่ชาเขียวที่เราสามารถไปเก็บชาเขียวได้ ที่ Nihaondaira Tea Hall แต่… เมื่อไปถึงเขาบอกว่าเปิดรับเฉพาะกรุ๊ปทัวร์เท่านั้น อีกแล้ว (http://www.ocha-kaikan.jp/ochatsumi.html) โดยกำหนดวันที่ให้นักท่องเที่ยวธรรมดาเข้าไปคือ 4/28 – 5/6 เท่านั้น
ดังนั้นเราก็จะไปยังศาลเจ้า Kunōzan Tōshōgu Shrine ซึ่งเป็นศาลเจ้าเก่าแก่ โดยไปยัง Nihondaira Ropeway เพื่อนั่งกระเช้าลงไปที่ศาลเจ้า
บัตรโดยสารสามารถซื้อผ่านตู้กดได้ โดยเรากดบัตรแบบ combi ซึ่งรวมค่ากระเช้าไป-กลับ ค่าเข้าศาลเจ้า รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ในราคา 1,750 เยน (ตั๋วไป-กลับปกติ ราคา 1,100 เยน)
Kunōzan Tōshōgu Shrine คุโนะซันโทโชงูเป็นศาลเจ้าซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี1617เพื่อเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณอิเอะยะซุโทะกุงะวะ (Ieyasu Tokugawa) ตามคำ สั่งของฮิเดะทะกะบุตรชายของเขาศาลเจ้าน
ร่างของอิเอะยะซุฝังอยู่ในสุสานบนที่สูงขึ้นไปหลังศาลเจ้าหลักตามคำ สั่งเสียของเขา สุสานนั้นหันด้านหน้าไปทางตะ วันตกซึ่งเป็นทิศที่ตั้งของแคว้นมิคะวะบ้านเกิดของเขาและเกียวโตเมืองหลวงเก่า
ที่นี่มีพิพิธภัณฑ์ที่เก็บรวบรวมของเก่างของโชกุนสมัยต่าง ๆ ไว้ด้วย แต่ภายในอาคารไม่สามารถถ่ายรูปได้ครับ
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.toshogu.or.jp
ข้อมูลเพิ่มเติม: https://www.toshogu.or.jp/foreign_language/pdf/thailand.pdf
Makinohara – เปลี่ยนชุดเป็นชาวไร่แล้วมาเก็บชาเขียวกัน
หลังจากที่เราพลาดไปเก็บชา เราเลยหาที่ใหม่ในการไปเก็บชา โดยการ search ของ Google พบว่ามีที่นึงที่น่าสนใจ นั่นคือที่ Grinpia Makinohara (グリンピア牧之原) (http://grinpia.com/c_2.html) ซึ่งขับรถลงไปอีกเกือบ 1 ชั่วโมง ที่เมือง Makinohara ถ้าจะมาเก็บชาต้องจองล่วงหน้า และ จะมีชุดสาวเก็บชาให้ใส่ด้วย ตอนที่เรามาไม่ได้จองไปก่อน แต่มีพนักงานผู้ชายใส่แว่นคนหนุ่มมาคอยบริการ โดยให้เรายืมชุดฟรี ๆ ไปถ่ายรูปได้ ต้องขอบคุณมาก ๆ
ไร่ชาเขียว ยอดอ่อน ๆ เด็ดได้
พอเก็บชาเสร็จ ก็มีผลิตภัณฑ์ขาย โดยเฉพาะในภาพนี้ เป็นชาเขียวชงเย็นและชงร้อน อร่อยมากเลย และแนะนำให้ซื้อขวดชงชาด้วย เพราะสามารถโยนใบชาลงไป และมีที่กรอง เทน้ำเย็น ๆ ลงไปกินชาเขียวเย็นอร่อยชื่นใจจริง
Fujinomiya – Shiraito Waterfall น้ำตกสวยริมภูเขาไฟฟูจิ
หลังจากที่เราเก็บชากันเสร็จแล้ว เราย้อนกลับขึ้นมาทางเมือง Shizuoka อีกประมาณ 1:30 ชั่วโมง เพื่อไปน้ำตกชิระอิโตะ (Shiraito 白糸の滝) น้ำตกนี้จริง ๆ แล้วตั้งอยู่ริมภูเขาไฟฟูจิเลย ถ้าฟ้าเปิดจะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้อย่างแน่นอน ในบริเวณนี้ยังมีน้ำตกโอโตะเมะโนะ (Otomeno 音止の滝) ซึ่งมาจากแม่น้ำสายเดียวกันนั่นเอง
เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามจำต้องร้องว้าวเลย เพราะเป็นน้ำตกที่สูงใหญ่ และมีความกว้างมากประมาณ 200 เมตร สายน้ำไหลผ่านซอกหินลาวาภูเขาไฟฟูจิออกมา เกิดเป็นน้ำตกที่สวยงามมากเมื่อเสร็จจากน้ำตกพวกเรามุ่งหน้าไปคืนรถที่สถานี Shin Fuji เพื่อส่งเพื่อนนั่งชิงคันเซนกลับไปโตเกียว ส่วนผมต้องนั่งกลับมหาวิทยาลัยอีกทาง ขอบคุณเพื่อนเกดและชุ้งที่มาเที่ยวกันในทริปนี้อย่าลืมกดติดตามเพจ : oak.in.th ได้เลยนะครับ ใครชอบจะแชร์ให้เพื่อนอ่านกันต่อได้ตามสบาย
ทางไปจองของโรงแรม
Agoda – Nippondaira Hotel
Booking – Nippondaira Hotel
แต่ถ้าหากใครไม่ได้เช่ารถมาแล้วจะมาเที่ยวแถบ Shizuoka รวมถึงภูเขาไฟฟูจิ ก็มีพาสแนะนำมาเสนอเพื่อเป็นทางเลือก นั่นก็คือ JR Mt. Fuji Shizuoka Area Tourist Pass Mini 3 day
ขอบคุณที่ติดตามครับ
- Oak 21/06/2018 @ JAIST, Nomi city, Japan