มาตามเก็บกันต่อที่โตเกียวกันเลยครับ!! (อ่านตอนที่ 4 : ตอนที่แล้ว)
12 ตุลาคม 2550
วันนี้จะเป็นการเดินเที่ยวในโตเกียวในจุดที่เหลือครับ
วันนี้ตื่นเข้ามาอากาศสดใสจริงๆ วันนี้โปรแกรมแรกของพบคือเที่ยวศาลเจ้าเมจิ หรือ Meiji-Jingu นั่นเองครับ
จาก Shinagawa (โรงแรม Shinagawa Prince Hotel | โรมแรมแนะนำในโตเกียว ) ที่ผมพักอยู่นั่ง JR สาย Yamanote ไปลงยังสถานี Harajuku ครับ
เมื่อเรามาถึงที่สถานี Harajuku แล้วลองมองหาป้ายครับเขาจะบอกว่า Meiji Shrine นั้นออกมาทางไหน
ออกมาจากสถานีแล้วเดินไม่เกิน 2 นาทีก็จะมาเจอประตูทางเข้าของที่นี่ครับ
ประตูทางเข้าใหญ่ทีเดียว











บรรยากาศภายในของที่นี่ มีต้นไม้ใหญ่ให้เห็นรอบๆ มีร้านขายของที่ระลึก
ประตูเข้าสู่ศาลเจ้าชั้นในนี่แหละครับศาลเจ้า Meiji แผ่นไม้จำนวนมากได้ถูกคนที่มาเยี่ยมชมที่นี่เขียนขึ้น
จากภาพจะเห็นเวลาว่างของเด็กญี่ปุ่น มาทัศนศึกษาที่แห่งนี้ แล้วยังรักษาความสะอาดอีกด้วย น้องๆเขาน่ารักจิงๆ
จากนั้นผมออกจากที่นี่ แล้วไปที่กันที่ Ginza ซึ่งเป็นย่านหรูของเมืองโตเกียวเลยทีเดียว
Ginza
จากที่ Meiji-Jinku เดินออกมาทางเดิมแต่แทนที่จะเข้าไปยังสถานี JR Harajuku แต่ไกล้ๆกันนั้นยังมีสาย Chiyoda ของ Tokyo metro ผ่านหน้า Meiji อีกด้วย เนื่องจากที่ที่ผมจะไปต่อไปคือ Ginza ดังนั้นผมเลยเลือกที่จะลงไปที่เจ้า Chiyoda line ครับ
ขึ้นที่สถานี Meiji-jingumae (C03) ที่อยู่ข้าง ๆ กับสถานี JR Harajuku แล้วไปลงที่สถานี Omote-sando (C04) ครับ
เมื่อมาถึงที่สถานี Omotesando ก็เปลี่ยนมาขึ้นสาย Ginza เพื่อไปยัง Ginza ครับ
แผนที่ของ Ginza จุดที่ผมขึ้นมาจากรถไฟฟ้าใต้ดินก็อยู่ที่ห้าง Ginza Wako เลยครับ


อันนี้คือ Ginza Wako เป็น landmark ของ Ginza ครับ Times Square of Tokyo
สถานี Ginza และตึก Ginza Wako ที่ด้านซ้าย และ Mitsukochi ด้านขวา
นี่แหละคือ Ginza แหล่งช็อปปิ้งขนาดใหญ่ ไฮโซ
Odaiba : เกาะแห่งใหม่ไกล้โตเกียว เกิดจากการเอาขยะมาถม
จาก Ginza นั่งมาอีกแค่สถานีเดียว มาลงที่สถานี Shimbashi ครับ เพื่อไปต่อสาย Yurikamome ไปยังเกาะ Odaiba
Odaiba เป็นเกาะน้องใหม่เลยครับ เอาขยะมาถมลงไปเกิดเป็นเกาะขึ้นมา ที่นี่มีอะไรให้น่าเที่ยวเยอะมากๆ ถ้าจะเที่ยวให้หมดภายก็อาจจะต้องใช้เวลาเป็นวันๆเลยก็ได้
เดินไปตามป้ายเลยครับ
รถไฟสายนี้ไม่มีคนขับนะครับ ทุกอย่างอัตโนมัติ !
สะพานแห่งนี้มีชื่อว่า Rainbow bridge ครับ รถไฟสายนี้จะวิ่งลอดใต้สะพานเพื่อไปยังเกาะ Odaiba ที่อยู่ด้านซ้ายในรูปครับ
ตอนกำลังลอดใต้สะพาน
Joypolis ของ Sega ข้างในมีตู้เกมส์ และ เครื่องเล่นมากมาย เข้าไปแล้วจะ Enjoy!
ด้านซ้ายจะเป็นห้าง Deck ในส่วนของ Island mall และ ด้านขวา Sea side mall ครับ
เดินออกมาด้านนอกก็จะเป็นทางเดินริมทะเลครับ เพื่อมารับลมเย็นๆ
ตอนนี้เดินมาที่ห้าง Aqua City Odaiba แล้ว
ทุกๆคนที่มาก็จะมาถ่ายรูปจุดนี้ล่ะครับ มีเทพีเสรีภาพให้ถ่ายด้วย !!
ร้าง Coach
ตึก Fuji TV ตรงส่วนที่มันกลมๆ ตรงนั้นคือจุดชมวิวครับ
โรงแรม Nikko
สวยดีนะ
ผมจำไม่ได้ว่ามันคืออะไร แต่เรือข้างหลังคือพิพิธภัณฑ์ทางทะเลครับ
ตอนนี้ขึ้นไปที่จุดชมวิวดีกว่า
ส่วนกลมๆนี่แหละครับที่จะขึ้นไป
ราคา 500 เยนครับ
วิวกรุงโตเกียวจากจุดชมวิว มองเห็นสะพาน Rainbow แล้วก็ Tokyo Tower
เด็กๆกำลังสนุกสนานกับรายออกรายการครั้งแรกของพวกเขา
ดารา พิธีกรมากมาย มีการแสดงประวัติของพวกเขาอยู่ นี่คือชุดที่พสกเขาใส่กัน
Venus Fort ห้างหรู
ย่านนี้คือ Palette Town
Megaweb เป็นสถานที่ที่ Toyota มาโชว์เทคโนโลยีต่าง ๆ ครับ
รถยนต์ของ Toyota
รถแข่งของ Toyota
Lexus รถหรูของ Toyota
Kazuki Nakajima นักแข่ง Formula1 ชื่อดัง
ที่นี่จะเป็นการรวมเทคโนโลยีเพื่อนอนาคต
หุ่นยนต์ก็เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่เขาพัฒนาอยู่
แม้แต่หน้าปัดในรถเขาก็ให้ความสำคัญ ลองไปนั่งแล้วมองมาที่เกจ มีหลายๆแบบให้ลอง
แม้แต่กระจงมองข้างหลัง – ป้ายเหล่านี้มีความหมายอย่างไร? – เมื่อแก่ขึ้นจะเห็นอย่างไร?
ชิงช้าสวรรค์ !!
พิพิธภัณฑ์ทางทะเล อันนี้แค่ผ่านมาเฉยๆครับไม่ได้เข้าไป
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆของ Odaiba ที่ไม่ได้ไป
Panasonic Center
ที่นี่ก็คือ Showcase ของ Panasonic นั่งเอง
Tokyo Big Sight
ที่นี่ Exhibition center
National Museum of Emerging Science and Innovation
พิพิธภัณฑ์ทางวิทยาศาสตร์ในด้านต่าง ๆ มากมาย
Telecom Center
ที่นี่ก็เอาไว้ชมวิวได้ นอกจากนั้นยังเป็นศูนย์รวมการสื่อสาร มีจานดาวเทียมขนาดใหญ่ที่จุดชมวิวอีกด้วย
Oedo Onsen Monogatari
เจาะลงไปกว่า 1400 เมตรเพื่อนำน้ำแร่ออกมาให้บริการ
Roppongi (六本木, lit. “six trees”) : ย่าน Night Life ของชาวโตเกียว
ที่ย่าน Roppongi จะแบ่งออกเป็นในส่วนของ Roppongi Hills, Tokyo Midtown และ Nightlife Area
Roppongi Hills :
แมงมุมยักษ์ !!
ป้ายบอกทางใน Roppongi Hills
ตึก TV Asahi
โชว์รูมรถมินิ
จอยักษ์
ตึกโมริ ข้างบนนี้เป็นจุดชมวิว และ มีงานแสดงศิลปะต่างๆ
13 ตุลาคม 2550 : วันสุดท้ายในญี่ปุ่น
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการมาญี่ปุ่นครั้งนี้แล้วครับ วันนี้มีโปรแกรมไป Imperial palace และ Tokyo Tower ครับ
จาก Shinagawa มาถึงสถานี Tokyo ด้วย JR Yamanote line ครับ
เช้านี้ผมมาที่ Imperial Palace ซึ่งเป็นพระราชวังที่ราชวงศ์ญี่ปุ่นทรงประทับอยู่
ด้านซ้ายตึกสวย ๆ นั่นก็คือสถานีโตเกียวครับ
Imperial Palace จะเห็นได้ว่ามีประชาชนมารอเข้าเฝ้าเป็นจำนวนมากเลยทีเดียว
ญี่ปุ่นเขารู้จักรักความสะอาด การแยกขยะนั่นสำคัญมากๆ ญี่ปุ่นมีพื่นที่อันน้อยนิดถ้าเขาไม่ช่วยกันนำของต่าง ๆ ไปรีไซเคิล จะเกิดอะไรขึ้น ถังขยะหน้าร้าน 7-11 เป็นตัวอย่างที่ดีเลย ทำให้คนรู้จักแยกขยะ
Tokyo Tower
หอคอยสูง 333 เมตร แต่ที่ขึ้นไปดูนั้นสูง 150 เมตร สามารถมองเห็นได้รอบโตเกียวเลย
เขาบอกว่าที่นี่สูงกว่าหอไอเฟลนะ
จุดชมวิวครับ เห็นได้รอบเมือง ถ้าวันไหนท้องฟ้าแจ่มใสจะเห็นภูเขาไฟฟูจิได้เลย
เขาแอบเจาะรูให้เราเสียวเล่นๆ สูงมากๆเลย
จากนั้นก็กลับมาที่ Shinagawa ครับ แล้วมาแวะทานอาหารหน้าสถานี เป็นข้าวหน้าปลาไหล น่ากินๆ
อาหารเที่ยงแถวๆโรงแรมครับ
ลาก่อนโรงแรม Shinagawa!!
จากโรงแรมเดินข้ามถนนมาที่สถานี ถึงแม้จะมีกระเป๋าใบโต แต่ลากสบาย ๆ ครับ พอถึงสถานีก็ใช้ลิฟท์ สบายจริงๆ
มาแล้วครับรถไฟ Narita Express ที่จะนำผมไปยังสนามบิน
บรรยากาศภายในรถไฟเขา น่าใช้บริการมาก
มีบอกเวลาด้วยว่าจะถึงเมื่อไร แล้วก็บอกเราด้วยว่าถึงไหนแล้ว
สนามบินนาริตะครับ ตอนนี้มาเช็คอิน
ในสนามบินนาริตะมีร้านค้า Duty Free ขนาดใหญ่ ทำให้มีเวลา Shopping ได้พอสมควรเลย
จากนั้นผมก็บินกลับกรุงเทพเมืองบ้านเกิด
แต่ตอนเครื่องจะออกอยู่ดีๆไฟในเครื่องดับครับ ทำให้ต้องจอดซ่อมอยู่นานเลย จากนั้นก็บินกลับได้อย่างปลอดภัย
– THE END –
ขอบคุณ รูปและข้อมูลจาก http://www.japan-guide.com
จองโรมแรมและที่พักในญี่ปุ่นผ่าน Booking.com