10 ตุลาคม 2550
สำหรับตอนที่ 3 : Asakuza -Ueno : ที่นี่ครับ
วันนี้พวกน้องๆลูกทีมผมจะกลับไปยังเมืองไทยกันหมดครับ แต่ว่าผมยังคงอยู่ต่อครับ เพราะว่าคุณพ่อของผมมาสัมมนาที่ญี่ปุ่นพอดีเลยครับ
เก็บกระเป๋าครับ ผมเองก็ต้องเก็บกระเป๋าเหมือนกัน
ลาก่อนครับที่พัก NYC
กระเป๋าใบของผมครับ หนัก 27.5 กิโลกรัม คือวันนี้ผมต้องย้ายที่พัก ถ้าผมเอากระเป๋าแบกขึ้นรถไฟไปคงแย่แน่ ๆ ครับ ดังนั้นก็โชคดีครับที่ใน NYC นั้นมีบริการ Kuro Neko หรือ เจ้าแมวดำคาบลูกครับ เป็นบริการส่งของครับ ผมก็เลยใช้บริการอันนี้ไป เพราะไม่อยากแบกย้ายไปอีกทีนึงครับ
จากนั้นพวกเราก็เดินแบกกระเป๋ากันไปขึ้นรถไฟครับ ส่วนผมเดินตัวปลิวเลย แต่ป่าวครับช่วยน้องๆแบก แล้วไม่น่าเชื่อเลยว่าขนาดกระเป๋าหนักๆ มันสามารถไปขึ้นรถไฟได้อย่างง่ายดาย เพราะ ที่ญี่ปุ่นทำทางลาดสำหรับคนพิการอย่างดีครับ เราก็อาศัยทางเหล่านี้ลากผ่านไป ที่สถานีรถไฟก็มีลิฟท์ครับทำให้อะไรต่ออะไรสะดวกเอามากๆ
จากนั้นก็มาที่สถานี Shinjuku ครับเพื่อมาซื้อตั๋ว Narita Express กลับสนามบิน แต่วันนี้ผมก้ยังไม่ได้บินเวลาซื้อก็ไม่ยากครับ กดเลือกประเภทตั๋ว ขบวนไหน เวลาไหน แล้วก็ต้องจองที่นั่งด้วย หรือผ่านคนขายก็ง่ายดีครับ ภาษาอังกฤษสบายๆ
Credit: alamy stock photo
ระหว่างรอรถไฟ ที่สถานีชินจูกุนั้นมีของขายมากมาย แล้วก็มีร้านขนมมากมาย
LUMINE Shopping center
basic information and how to get there
Lumine เป็นห้างที่มีอยู่ด้วยกันรอบ ๆ สถานี Shinjuku ครับ
สำหรับที่พักในคืนนี้ผมนอนที่โตเกียวครับ ที่พักโตเกียวที่แนะนำมีมากมาย ที่นี่
แต่ที่ที่ผมพักคือ Shinagawa Prince Hotel เพราะสะดวกต่อการต่อรถไฟไปยังที่ต่าง ๆ ครับ
11 ตุลาคม 2551
Kamakura
เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ตอนใต้ของโตเกียว เมืองนี้ตั้งอยู่ริมทะเลครับ ล้อมรอบไปด้วยภูเขา มีวัดมากมาย และ เมืองนี้เป็นเมืองยอดนิยมอีกเมืองหนึ่งเลยทีเดียว
การมาไม่ยากเลยครับ นั่งรถไฟไปโดยซื้อตั๋ว
Kamakura Enoshima Free Kippu ราคา 1970 เยน จาก Shinagawa เลยครับ
เนื่องจากที่ Shinagawa สถานีข้อนข้างใหญ่มีรถไฟหลายสายผ่าน แล้วก็ 1 ในนั้นก็คือรถไฟสาย Yokosuka ครับที่จะตรงไปยังเมือง Kamakura เลย จาก Shinagawa ใช้เวลาเพียง 50 นาทีก็ถึงแล้วครับ
พอมาถึง Kamakura แล้ว เราสามารถใช้ตั๋วที่ซื้อมาในการนั่งรถไฟท้องถิ่นได้ครับก็คือสาย Enoden
ซึ่งผมจะใช้รถไฟอันนี้ในการเดินทางครับ
ที่มา http://www.japan-guide.com
มาีรีวิววัดกันเลย
1. Hasedera
วัดนี้เป็นวัดแรกที่ผมไปถึงครับ จ่ายค่าเข้าชมไป 300 เยนครับ วัดนี้เป็นวัดที่สวยมากๆ ขึ้นไปบนภูเขาครับสามารถมองลงมาเห็นตัวเมือง Kamakura ได้อีกด้วย นอกจากนั้นมีถ้าเล็กๆ สามารถเข้าไปได้ครับ ในนั้นมีพระพุทธรูปมากมาย
เมื่อมาถึงสถานี Kamakura แล้ว ก็เปลี่ยนเป็นสาย Enoden มาลงที่สถานี Hase จากนั้นเดินขึ้นมาประมาณ 3-5 นาทีครับ
2. Daibutsu
วัด Daibutsu หรือหลวงพ่อโต หลวงพ่อมีความสูง 13.35 เมตรครับ เป็นพระที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของญีปุ่นโดยที่องค์ใหญ่ที่สุดอยู่ในวัด Todaiji ที่เมืองนารา ครับ
เชื่อมั้ยว่าปกติที่นี่จะมีสิ่งปลูกสร้างด้วย แต่ว่าในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 ได้เกิดคลื่นยักษ์ Tsunami ทำให้สิ่งปลูกสร้างหายไปหมดเลย ที่เห็นก็เลยเป็นพระกลางแจ้งไปนั่นเอง
how
to get there
ใช้รถไฟสาย Enoden ลงสถานีเดียวกับที่จะไป Hasedera นั่นก็คือสถานี hase แล้วเดินต่อไปอีก 5 – 7 นาที
Komachi-dori shopping street
พอไปวัดใหญ่เสร็จแล้วก็กลับมาขึ้น Enoden แล้วไปยัง Kamakura sta. เพื่อเดินต่อไปยังอีกวัดครับ โดยผ่านตลาดกลางเมืองของเขาด้วย คนเป็นหนอนจริงๆ มีร้านขายขนมนกพิราบ ขนมประจำเมืองนี้
ถนนนี้มีของที่ละรึกแล้วก็ร้านอาหารมากมายครับ
3. Hachimangu shrine
ศาลเจ้าTsurugaoka Hachimangu
เป็นศาลเจ้าที่สำคัญมากที่สุดในเมืองมาคุระ สร้างขึ้นโดย Minamoto
Yoriyoshi ในปี 1063 และต่อมาได้ขยายใหญ่ขึ้นโดย Minamoto Yoritomo ในปี
1180
ศาลเจ้านี้ได้สร้างขึ้นเพื่อแสดงความเคารพต่อ Hachimanหรือเทพเจ้าแห่งสงคราม เทพเจ้าที่คอยดูแลครอบครัวมิยาโมโต้และซามูไรทั่วไป
ในแต่ละวันจะมีผู้คนแวะเวียนมาไหว้ขอพรอยู่เสมอ
อย่างเช่นในเทศกาลปีใหม่ หรือในวันพิธีเด็กทางชินโต
ครอบครัวที่มีลูกอายุครบ 3,5 และ 7ขวบ
ก็จะพาไปไหว้ศาลเจ้าเพื่อขอให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง
ซึ่งชาวญี่ปุ่นถือว่าเลข 3, 5 และ 7 เป็นเลขดี มีโชค
ถ้าเป็นลูกสาวมักจะนำไปตอนอายุครบ 3 และ 7 ขวบ
และถ้าเป็นลูกชายก็จะนำไปตอนอายุครบ 5 ขวบ
อีกทั้งเด็กทารกที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน
บางครอบครัวพ่อแม่มักจะพามาขอพรให้ร่างกายแข็งแรงเช่นกัน
how
to get there
จากสถานีรถไฟคามาคุระ
ใช้เวลาเดินประมาณ 10-15 นาที มีให้เลือกเดินสองทาง
คือเดินผ่านทางย่านKomachi-dori shopping street หรือ Dankazura
ซึ่งเป็นทางเดินเท้า เป็นศูนย์กลางของถนน Wakamiya Oji
มีต้นซากุระปลูกเรียงรายอยู่ตามทางเดิน
ข้อมูลจาก : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=star-crystal&month=12-2005&date=10&group=4&gblog=9
Dankazura
เป็นถนนสายกลางอีกสายในเมือง Kamakura
ในฤดูใบไม้ผลิถนนแห่งนี้จะมีซากุระให้ชม
ประตูสีแดง
4. Engakuji
ขึ้นมาที่สถานี Kita-kamakura ในตอนเหนือของเมือง
5. Meigetsuin
6. Kenchoji Temple
Kenchoji ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีเดินมาจาก Kitakamakura Station สาย JR Yokosuka Line, 1 สถานีก่อน
Kamakura Station.
Shopping
ของที่น่าซื้อ
Hatosabure (鳩サブレー)
ขนมรูปนกพิราบแบบนี้ครับ
เดี๋ยวจะมี ตอนที่ 5 ต่อครับกดลิ้งค์ได้เลย เป็นการไปยังวัด Meiji ในโตเกียว – Ginza – Odaiba – Roppongi ครับ
ขอบคุณที่เข้ามาครับ
เครดิตเจ้าของภาพทุกชิ้นงานที่ยืมมาใส่ครับ
Credit :wikipedia, japan-guide, rightful owners 🙂